Monday, January 19, 2015

แนะแนวข้ามทวีป : "so-called flight attendant" ตอนที่ 2 How come?

***Rules&regulations ในการอ่าน "so-called flight attendant"***

1. เรื่องราวทั้งหมดที่เกิด เป็นประสบการณ์ตรงของผู้เขียนที่อยู่ในอาชีพแอร์โฮสเตสมาเป็นระยะเวลา8ปี ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาโจมตีหรือพาดพิงผู้ใดทั้งสิ้น หากแต่เป็นการเขียนเพื่อเป็นวิทยาทานให้รุ่นน้องที่อยากเป็นแอร์โฮสเตส และเพื่อเพื่อนๆผู้รักการอ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น

2. เนื้อหาและเนื้อเรื่องบางส่วนในบางตอน ไม่สามารถนำไปใช้ได้กับสายการบินอื่นๆในเหตุการณ์เดียวกัน การนำเอาเรื่องราวของผู้เขียนไปเปรียบเทียบ หรือยึดถือเป็นหลักโดยรวมว่าด้วยเรื่องของชีวิตการเป็นแอร์โฮสเตส อาจทำให้ผู้อ่านมีความเข้าใจที่ผิดต่อการเป็นแอร์โฮสเตสในภาพรวมได้

3. กรุณาใช้วิจารณญาณขั้นสูงสุดในการอ่าน เนื่องจากเรื่องราวของผู้เขียนนั้น เกิดขึ้นจากการใช้ชีวิตการทำงานและอยู่อาศัยในประเทศแถบตะวันออกกลางเท่านั้น การจัดการและการบริหารของสายการบินต่างๆในแถบนี้ รวมถึงสายการบินที่เบสในประเทศไทยนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพื่อนร่วมงาน ผู้โดยสาร เชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม การเลี้ยงดูในวัยเด็ก จิตสำนึก ความคิด ทำให้ความสามารถในการมองโลก การแก้ปัญหา การแยกแยะผิดชอบชั่วดี มีความแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ผู้อ่านจึงไม่ควรตัดสินชีวิตใคร แต่ควรพึงเข้าใจ ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นไป ล้วนแล้วแต่เป็น "กรรม" ของแต่ละบุคคลเท่านั้น

................................................................

แนะแนวข้ามทวีป : "so-called flight attendant" ตอนที่ 2 How come?

มาถึงตอนที่ 2 กันแล้ว เวลามีน้อยมากวันนี้ ตารางบินเปลี่ยนให้วุ่นวาย รีบมาปั่นงานเขียนให้อ่านกันก่อนที่จะรอกันเก้อ ขอเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะ How come? ในที่นี้คือ เป็นไปได้ไง? ทำไมไม่ได้? คือไม่ผ่านรอบสัมภาษณ์ หรือไม่เข้าตากรรมการนั่นเอง

พี่จะไม่พูดถึงรายละเอียดการเตรียมตัวอะไรมากมายในตอนที่2นี้ เพราะทุกอย่างนั้นมันรวมอยู่ในตอนที่1 หมดแล้ว และถ้าใครไปทำการบ้านมาดีๆ จะรู้เลยว่า scope การเตรียมตัวสมัคร์แอร์มันเยอะแค่ไหน นี่คือสำหรับคนที่มุ่งมั่นจะเป็นจริงๆนะ ใครที่ตั้งใจอ่านจริงๆ ตั้งใจหาข้อมูลจากเวบไซด์ที่พี่แนะนำไป เปอร์เซนต์ที่จะผ่านการสัมภาษณ์รอบแรกนั้นมีสูงมากถึงมากที่สุด ใครอ่านมาแล้วบ้างนิดหน่อยจะรู้เลยว่ารอบแรกส่วนใหญ่กรรมการเค้าอยากเห็นอะไรจากเรา "grooming" คำๆนี้ จำให้แม่น จะสมัครแอร์ไม่สมัครแอร์ก็เถอะ "grooming" เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่น้องต้องใส่ใจให้มาก

มาคุยกันตรงๆนะ ใครเคยไปสมัครแอร์มาแล้ว แล้วไม่ผ่านบ้าง? แล้วพอไม่ผ่าน มีคำถามผุดขึ้นมามั๊ย ออกแนวโวยวายมั๊ยว่า "How come?" ทำไมไม่ได้ ทำไมไม่ผ่าน หนูผิดตรงไหน? การศึกษาหนูก็มี หนูเด็กจุฬา เด็กธรรมศาสตร์นะ จบถึงเมืองนอกเมืองนามาเชียวนะ ภาษาอังกฤษหนูก็ได้ โน้นนั่นนั่นนี่ เข้าขั้น "drama" กันเลยทีเดียว ประเด็นวันนี้จะมาพูดเรื่องนี้แหละ

ค่ะ หนูมีทุกอย่าง แต่สิ่งที่หนู(ยัง)ไม่มี คือ "attitude" ค่ะ ชัดๆกันไปเลย น้อง กรรมการหน่ะนะ เค้ารู้ว่าเค้ามาเอาใคร แบบไหน ยังไง เอาไปบินให้สายการบินเค้า เค้ามี "สเปค" ของเค้ามา อาจเป็นเรื่องความสูงในบางสายการบินที่ออกแนว "Boutique Airline" คือจะเอาไปเป็นหน้าเป็นตาสายการบิน อาจจะเป็นเรื่องภาษาที่3 ที่เค้าต้องการเอาไปบินไฟลท์ประเทศนั้นๆ เพราะเค้าขาด "Language Speaker" แบบนี้เป็นต้น เพราะฉะนั้นเวลากรรมการเค้ามองน้องมา คุยกับน้องคำ2คำ เค้ารู้แล้วว่าน้องใช่ไม่ใช่ ให้ผ่านหรือไม่ผ่าน จบนะ

"Attitude" สำคัญ น้องๆคงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วกับเรื่อง "น้ำเต็มแก้ว" คือน้ำมันเต็มจนล้นแก้วออกมาแล้ว แต่ก็อยากจะเติมน้ำมันเข้าไปอีก แบบนี้ ก็ล้นออกมาจากแก้วไง ใครไปสมัครแอร์ด้วยความมั่นที่ออกแนว "I am a celebrity" ชั้นเป็น คิม คาดาเชี่ยน อะไรเทือกนั้น กรรมการคงส่ายหัวในใจ เป็นพี่ พี่ก็ไม่เอาคนแบบนี้มาเป็นแอร์สายการบินพี่นะ เพราะดูท่าแล้วจะมาสร้างปัญหาให้เพื่อนร่วมงานมากกว่ามาทำประโยชน์ให้สายการบินหน่ะ

ย้อนอดีตไปเมื่อ8ปีที่แล้ว ในห้องประชุมสัมภาษณ์แอร์รอบแรก มีผู้หญิงหน้าตาสวยมากๆอยู่คนนึง ให้ตายเถอะ เธอ แอร์การบินไทยใช่มั๊ย หน้าการบินไทยมากกกกก แต่ว่าไม่สูง แต่มีการศึกษาอย่างแรง เพราะเพิ่งกลับมาจากออสเตรเลีย ทำผมทรงคุณหญิงมาสอบสัมภาษณ์รอบแรก ผมทรงคุณหญิงที่ว่า คือทรงตั้งๆอ่ะ มันก็สวยอยู่หรอกนา แต่มันดูทะแม่งๆนะพี่ว่า ระหว่างต่อแถวไปวัดส่วนสูง คุณเธอดูกระวนกระวายแปลกๆ พี่มาถึงบางอ้อ ตอนยืนมองกรรมการวัดส่วนสูง คุณเธอยืนยกส้นเท้าไม่พอ ยังเงยหน้าให้ผมทรงคุณหญิงหน่ะไปแตะให้สูงที่สุดที่จะทำได้ กรรมการบอกเลยว่าไม่ผ่าน หน้าเสียเลย ชักสีหน้าใส่กรรมการด้วยนะ เดินออกมาเสร็จ ด่าเลยยยย ด่ากรรมการนี่แหละ โอ้วววว แม่เจ้า "attitude" ตัวเดียวเลยน้อง

ใครไม่สูง อย่าถอย เพราะเอาจริงๆแล้วรู้มั๊ย ถ้ากรรมการเค้าชอบเรา เค้าคิดว่าเราทำงานให้เค้าได้ เค้าจะให้โอกาสเรา มีคนสูงน้อย ขอใช้คำว่าสูงน้อย ผ่านเข้าไปเป็นแอร์หลายคนแล้ว เพราะอะไร เพราะกรรมการเค้าชอบ เค้ามั่นใจ ว่าน้องทำงานให้เค้าได้ คือ "attitude" ของน้อง ไปเข้าตากรรมการนั่นเอง แล้วก็ "attitude" นี่แหละ จะเป็นอีกตัวนึงที่จะช่วยให้การเป็นแอร์ของน้อง สะดวกสบายราบรื่น น้องเอ้ยยยย ขึ้นบินเมื่อไหร่ ได้ไปเจอะเจอกับผู้โดยสารร้อยพ่อพันธุ์แม่เมื่อไหร่ แล้วจะรู้เองว่าทำไมกรรมการถึงเลือกเรามาทำงานให้กับสายการบินเค้า พี่บอกได้แค่นี้แหละ

ใครไม่ผ่าน ไม่ต้อง "drama" หรือไปค้นหาความจริงว่าทำไม แต่กรุณาให้โอกาสตัวเองอีกครั้ง และอีกครั้ง และก็อีกครั้ง กับการสัมภาษณ์แอร์ในครั้งต่อไป อย่าหยุดไปสัมภาษณ์แอร์ เพราะทุกครั้งที่น้องไปสัมภาษณ์แอร์ น้องจะได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆเยอะมาก จากการสัมภาษณ์ต่างสายการบิน ทั้งวิธีการสัมภาษณ์ที่แตกต่างกัน ใครสังเกตุตัวเองดีๆ นิ่งๆ ยอมรับความจริง จะระลึกชาติได้เองว่าตัวเองพลาดอะไรไป ขาดอะไรตรงไหน แล้วจะเริ่มปรับปรุงตัวเองได้เองในการสัมภาษณ์ครั้งต่อๆไป แต่ถ้าน้องหยุดไปสัมภาษณ์แอร์ เพียงเพราะว่าเสียเซลฟ์ กับแค่ไม่ผ่านแอร์รอบแรกหรือรอบต่อๆไป น้องก็จะไม่ได้เป็นแอร์แน่นอน100% การเสียเซลฟ์เพราะคิดว่าตัวเองดีแล้ว เก่งแล้วเหมาะแล้วที่จะเป็นแอร์ แบบนี้ เรียกว่า "น้ำเต็มแก้ว" ไปสมัครงานที่ไหน เปอร์เซนต์ในการผ่านการสัมภาษณ์ พี่ว่ามีน้อย ยกเว้นบริษัทนั้นๆมี "norm" หรือ "culture" ที่เหมาะกับคนที่มี "น้ำเต็มแก้ว" อยู่แล้ว แบบนั้นผ่านโลด แต่ฝากให้ไปคิดกันเอาเอง ถึง environment ในการทำงานกับพวก "น้ำเต็มแก้ว" ทั้งหลายนั้น ชีวิตการทำงานจะเป็นอย่างไร?

คนที่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นพวก "น้ำเต็มแก้ว" เทออกหน่อยก็ดีนะ จะได้มีที่เหลือให้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆได้บ้าง หรือทางที่ดี เทน้ำออกให้หมดแก้วเลยจะดีที่สุด รับสิ่งใหม่ๆได้เต็มที่ ว่ามั๊ย ส่วนใครที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ "fail" มันไปซะทุกอย่าง อย่างสมัครแอร์ก็ท้อ ทำไมไม่ได้ซักที ให้คุยกับตัวเองดีๆนะ ว่าจริงๆแล้วอยากเป็นแอร์จริงรึเปล่า ถ้าอยากเป็นจริงๆ ก็ลุยต่อไป อย่าหยุด จนกว่าจะได้ พี่มั่นใจ ว่าในระหว่างการมุ่งมั่นเดินทางเพื่อเป็นแอร์ ถึงท้ายที่สุดแล้วน้องจะไม่ได้งานแอร์ แต่น้องจะได้ค้นพบอะไรใหม่ๆเกี่ยวกับตัวน้องเองแน่นอน เพราะฉะนั้น เรามาเดินกันต่อไป นะ ~




สุดท้ายนี้ พี่ขอฝากคำคมนี้ไว้เป็นกำลังใจให้คนที่คิดจะสมัครแอร์ทุกคน 6คำสั้นๆ จำให้ดีๆ ใช้ได้ทุกที่ ทุกเรื่อง ทุกช่วงชีวิต แล้วเรามาเจอกันตอนหน้า "so-called flight attendant" ตอนที่ 3 Goodbye Thailand

>>> แนะแนวข้ามทวีป : "so-called flight attendant" ตอนที่ 3 Goodbye Thailand <<<

................................................................


>>> แนะแนวข้ามทวีป : Introduction <<<
>>> แนะแนวข้ามทวีป : High School Love On <<<
>>> แนะแนวข้ามทวีป : Better Planet VS. Better Kids <<<
>>> แนะแนวข้ามทวีป : What's next? <<<

"so-called flight attendant" ตอนที่ 1 How? http://skulligram.blogspot.com/2015/01/so-called-flight-attendant-1-how.html








No comments: