ห้องเรียนเฉพาะกิจ (Exclusive Class) : Unit 11 It's a very exciting place! ตอนที่2 (part 2)
บินหนักไปหน่อย ไม่ได้หายใจเลย ขอโทษทีนะน้องๆ แต่พี่จะพยายามเอาให้จบถึงบทที่14ก่อนสอบเน้อ ~ ^^
Workbook - Grammar note : A and An (page63)
Use a or an with (adverb+) adjective + singular noun.
- It has a fairly new park.
- It's an old city.
Don't use a or an with (adverb+) adjective.
-It's fairly new.
It's old.
อ่านแล้วพอเข้าใจมั๊ยเอ่ย? สรุปได้ใจความว่า ...
ใช้ a ก็ต่อเมื่อมีคำนามจบท้ายประโยค แต่หลังคำว่า a จะต้องไม่ใช่คำที่ขึ้นด้วย a,e,i,o,u
ใช้ an ก็ต่อเมื่อมีคำนามจบท้ายประโยค แต่หลังคำว่า an จะต้องเป็นคำที่ขึ้นด้วย a,e,i,o,u เท่านั้น
ตัวอย่างเช่น -
a car, a man, a pen, ...
an article, an elephant, an umbrella, ...
ถ้าจะต่อให้มันยาวขึ้น จะกลายเป็น
a nice car (รถสวย), a handsome man(ผู้ชายหล่อ), a black pen(ปากกาสีดำ)
an interesting article(บทความที่น่าสนใจ), an old elephant (ช้างแก่ๆตัวนึง), an expensive pen (ปากกาแพงด้ามนึง)
*** a กับ an ใช้กับอะไรที่มีแค่หนึ่ง มากกว่านั้นไม่ใช่และ อย่างเช่นจะมาบอกว่า "a nice cars" รถสวยหลายคัน ผิดเต็มประตู ... เมื่อไหร่ที่มี a กับ an เมื่อนั้นคำนามจะไม่มี 's'
แต่ ... บางประโยคก็ไม่ต้องมี a/an เลย สังเกตุได้จาก
1. ประโยคนั้นไม่ได้ลงท้ายด้วยคำนาม(คน,สัตว์,สิ่งของ,ชื่อประเทศ,เมือง,และอีกมากมาย)
2. ประโยคนั้นเป็นพหูพจน์ คือคำนามทั้งหลายแหล่ที่เติม 's' เพราะมันมากกว่า 1
ตัวอย่างเช่น -
"The buildings in Paris are really beautiful." (Advanced : สังเกตุดีๆเค้าใช้ 'The' แล้วเติม 's' ที่ building มันแปลได้ว่าถ้าคำนามมีมากกว่าหนึ่ง ให้ใช้ The นำหน้าแทน a/an แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ได้หมายความว่าคำนามทุกตัวจะต้องนำหน้าด้วย The เสมอไป) จบประโยคที่คำว่า beautiful ไม่มีอะไรต่อท้าย แบบนี้ไม่ต้องใช้ a/an
*** ถ้าอยากเห็น a/an มากนักก็ต้องเปลี่ยนประโยคใหม่เลยเป็น "Paris has a nice weather." Paris is an interesting city."
"Clothes are cheap in Jatujak market." ทำไมไม่มี a/an !?! ดูดีๆ เห็น 's' ที่ clothes มั๊ย นั่นแหละประเด็น
*** ณ จุดนี้ ถ้าอยากเห็น a/an มาก ท่าจะยาก เพราะความหมายจะเพี้ยน แถมออกแนวผิดแกรมม่าอย่างแรง "A cloth is cheap in Jatujak market." จะเป็นไปได้ไงที่ทั้งสวนจตุจักรจะมีเสื้อขายอยู่ตัวเดียว แล้วราคาถูกด้วย ไม่ใช่และ
ลองมาทำแบบฝึกหัดกันเน้อ~ ^^
1. Seoul is ... exciting place to visit. (a/an)
2. Tokyo is ... clean city. (a/an)
2ข้อสุดท้ายนี้ถามว่า จำเป็นต้องมี a/an หรือไม่ ทำไม?
1. Restaurants are very cheap in Mexico.
2. The beaches in Thailand are all beautiful.
บินหนักไปหน่อย ไม่ได้หายใจเลย ขอโทษทีนะน้องๆ แต่พี่จะพยายามเอาให้จบถึงบทที่14ก่อนสอบเน้อ ~ ^^
Workbook - Grammar note : A and An (page63)
Use a or an with (adverb+) adjective + singular noun.
- It has a fairly new park.
- It's an old city.
Don't use a or an with (adverb+) adjective.
-It's fairly new.
It's old.
อ่านแล้วพอเข้าใจมั๊ยเอ่ย? สรุปได้ใจความว่า ...
ใช้ a ก็ต่อเมื่อมีคำนามจบท้ายประโยค แต่หลังคำว่า a จะต้องไม่ใช่คำที่ขึ้นด้วย a,e,i,o,u
ใช้ an ก็ต่อเมื่อมีคำนามจบท้ายประโยค แต่หลังคำว่า an จะต้องเป็นคำที่ขึ้นด้วย a,e,i,o,u เท่านั้น
ตัวอย่างเช่น -
a car, a man, a pen, ...
an article, an elephant, an umbrella, ...
ถ้าจะต่อให้มันยาวขึ้น จะกลายเป็น
a nice car (รถสวย), a handsome man(ผู้ชายหล่อ), a black pen(ปากกาสีดำ)
an interesting article(บทความที่น่าสนใจ), an old elephant (ช้างแก่ๆตัวนึง), an expensive pen (ปากกาแพงด้ามนึง)
*** a กับ an ใช้กับอะไรที่มีแค่หนึ่ง มากกว่านั้นไม่ใช่และ อย่างเช่นจะมาบอกว่า "a nice cars" รถสวยหลายคัน ผิดเต็มประตู ... เมื่อไหร่ที่มี a กับ an เมื่อนั้นคำนามจะไม่มี 's'
แต่ ... บางประโยคก็ไม่ต้องมี a/an เลย สังเกตุได้จาก
1. ประโยคนั้นไม่ได้ลงท้ายด้วยคำนาม(คน,สัตว์,สิ่งของ,ชื่อประเทศ,เมือง,และอีกมากมาย)
2. ประโยคนั้นเป็นพหูพจน์ คือคำนามทั้งหลายแหล่ที่เติม 's' เพราะมันมากกว่า 1
ตัวอย่างเช่น -
"The buildings in Paris are really beautiful." (Advanced : สังเกตุดีๆเค้าใช้ 'The' แล้วเติม 's' ที่ building มันแปลได้ว่าถ้าคำนามมีมากกว่าหนึ่ง ให้ใช้ The นำหน้าแทน a/an แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ได้หมายความว่าคำนามทุกตัวจะต้องนำหน้าด้วย The เสมอไป) จบประโยคที่คำว่า beautiful ไม่มีอะไรต่อท้าย แบบนี้ไม่ต้องใช้ a/an
*** ถ้าอยากเห็น a/an มากนักก็ต้องเปลี่ยนประโยคใหม่เลยเป็น "Paris has a nice weather." Paris is an interesting city."
"Clothes are cheap in Jatujak market." ทำไมไม่มี a/an !?! ดูดีๆ เห็น 's' ที่ clothes มั๊ย นั่นแหละประเด็น
*** ณ จุดนี้ ถ้าอยากเห็น a/an มาก ท่าจะยาก เพราะความหมายจะเพี้ยน แถมออกแนวผิดแกรมม่าอย่างแรง "A cloth is cheap in Jatujak market." จะเป็นไปได้ไงที่ทั้งสวนจตุจักรจะมีเสื้อขายอยู่ตัวเดียว แล้วราคาถูกด้วย ไม่ใช่และ
ลองมาทำแบบฝึกหัดกันเน้อ~ ^^
1. Seoul is ... exciting place to visit. (a/an)
2. Tokyo is ... clean city. (a/an)
2ข้อสุดท้ายนี้ถามว่า จำเป็นต้องมี a/an หรือไม่ ทำไม?
1. Restaurants are very cheap in Mexico.
2. The beaches in Thailand are all beautiful.
No comments:
Post a Comment