Sunday, February 8, 2015

แนะแนวข้ามทวีป : "so-called flight attendant" ตอนที่ 5 Back to School

***Rules&regulations ในการอ่าน "so-called flight attendant"***

1. เรื่องราวทั้งหมดที่เกิด เป็นประสบการณ์ตรงของผู้เขียนที่อยู่ในอาชีพแอร์โฮสเตสมาเป็นระยะเวลา8ปี ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาโจมตีหรือพาดพิงผู้ใดทั้งสิ้น หากแต่เป็นการเขียนเพื่อเป็นวิทยาทานให้รุ่นน้องที่อยากเป็นแอร์โฮสเตส และเพื่อเพื่อนๆผู้รักการอ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น

2. เนื้อหาและเนื้อเรื่องบางส่วนในบางตอน ไม่สามารถนำไปใช้ได้กับสายการบินอื่นๆในเหตุการณ์เดียวกัน การนำเอาเรื่องราวของผู้เขียนไปเปรียบเทียบ หรือยึดถือเป็นหลักโดยรวมว่าด้วยเรื่องของชีวิตการเป็นแอร์โฮสเตส อาจทำให้ผู้อ่านมีความเข้าใจที่ผิดต่อการเป็นแอร์โฮสเตสในภาพรวมได้

3. กรุณาใช้วิจารณญาณขั้นสูงสุดในการอ่าน เนื่องจากเรื่องราวของผู้เขียนนั้น เกิดขึ้นจากการใช้ชีวิตการทำงานและอยู่อาศัยในประเทศแถบตะวันออกกลางเท่านั้น การจัดการและการบริหารของสายการบินต่างๆในแถบนี้ รวมถึงสายการบินที่เบสในประเทศไทยนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพื่อนร่วมงาน ผู้โดยสาร เชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม การเลี้ยงดูในวัยเด็ก จิตสำนึก ความคิด ทำให้ความสามารถในการมองโลก การแก้ปัญหา การแยกแยะผิดชอบชั่วดี มีความแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ผู้อ่านจึงไม่ควรตัดสินชีวิตใคร แต่ควรพึงเข้าใจ ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นไป ล้วนแล้วแต่เป็น "กรรม" ของแต่ละบุคคลเท่านั้น

................................................................

 แนะแนวข้ามทวีป : "so-called flight attendant" ตอนที่ 5 Back to School 

ครบ 1 อาทิตย์พอดีเลยยย รอกันนานม๊ายยย!? บินมึน แต่ยังมีสติมาเขียน ขอบอกกกกก อ่ะพร้อมยัง? จะเริ่มดีกรีความแรงตั้งแต่ตอนที่ 5 นี้เป็นต้นไป เพราะฉะนั้นพี่ขอความร่วมมือพวกเราอีกรอบ และจะขอมันทุกรอบเริ่มจากตอนที่ 5 นี้ไป ว่าให้ขึ้นไปอ่านใหม่ดีๆกับ Rules&regulations ในการอ่าน "so-called flight attendant ทั้ง 3 ข้อด้านบน ตามนั้นนะ เตือนแล้วนะ ~ 

เป็นใครก็เดาได้ ว่าตอนที่ 5 นี้เกี่ยวกับอะไร นั่นแหละตามนั้น "Back to school" คือช่วงเวลา 2 เดือนกับการเทรนการเป็นลูกเรือนั่นเอง แล้วการเทรนลูกเรือนี้นะเค้าจะแบ่งเป็น 2 ช่วง 2 เรื่องด้วยกัน ว่าด้วยเรื่องของ safety และเรื่องของ service  เรื่อง safety นี่ร่ายกันยาวเดือนกว่า เพราะต้องเรียนรู้เครื่องบินทุกรุ่นที่สายการบินใช้ รายละเอียดมีเยอะกว่าเรื่องของการเทรน service ที่ใช้เวลาไม่ถึงเดือนดีด้วยซ้ำในการเทรน 

ทุกๆเช้าตอน 7 โมง พวกลูกเรือใหม่ที่มาเทรนทั้งหมดจะต้องลงมารอรถที่บริษัทจะส่งมารับไปที่ Training School หรือโรงเรียนสอนการเป็นลูกเรือนั่นเอง ช่วงนั้นจำได้ เป็นช่วงที่มีลูกเรือใหม่เข้ามาเยอะมาก นอกจากลูกเรือเก่าลาออกไปเยอะมาก ลูกเรือกลุ่มที่มาจอยใหม่แต่ละกลุ่มเค้าเรียกกันเป็นภาษาอังกฤษว่า "Batch"(แบช) แปลว่า กลุ่ม กลุ่มที่พี่มาจอย (join) นั่นเรียกว่าเป็น แบช 3 ที่เรียกกันแบบนี้เพราะว่าเป็นคนไทยกลุ่มที่ 3 ที่บินมาจอย พวกพี่จะเริ่มเทรนกันช้าไปกว่าแบช 2 หนึ่งอาทิตย์ แล้วก็ตามหลังแบช 1 ไปสองอาทิตย์ตามลำดับ เท่าที่จำได้ แบช 2 ที่มาจอย เป็นคนไทยทั้งหมดเลย10กว่าคน(!? ชิมิ แบชสอง ถ้าเข้ามาอ่าน ช่วยคอนเฟิมหลังไมค์ด้วยว่ามีกี่คน) การเทรนด้วยกันทั้งกลุ่มคนไทย เป็นอะไรที่ดูน่าสนุกนะพี่ว่า แต่แบชของพี่มีคนไทยแค่ 3 คน คนฟิลิปปินส์ 2 คน คนอินเดีย 1 คน คนอียิปต์ 4 คน รวมแล้วแบชพี่มีทั้งหมด 10 คน 

เรื่องแรกที่จำแม่นมากในวันแรกของการเทรน เรียกได้ว่าเป็นช่วง "Introduction" ของการเข้าเรื่องการเทรนการเป็นลูกเรือในภาพรวมๆที่บริษัทเค้าจำกัดความมาให้ อาจารย์ที่สอนมีทั้งฝรั่งคนอังกฤษ คนแขก คนอินเดีย คนสิงค์โปร์ มีคนไทยด้วย แต่ในช่วงวันแรกนี้ อาจารย์ที่เข้ามาสอนมีแค่อาจารย์ฝรั่งผู้หญิง กับอาจารย์แขกผู้ชาย พูดไปเรื่อยๆจนไปถึงเรื่องๆนึงที่อาจารย์แขกผู้ชายเน้นมากย้ำมากเหลือเกินว่า ให้ระวังพวกแขกซาอุดิที่จะเข้ามาเที่ยวช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ของทุกอาทิตย์ ห๊ะ!? ระวัง? คือ? ขยายความได้ว่า พวกซาอุดินี่นะ เป็นแขกที่แบบว่า "อันตราย" ในที่นี้คือ มองเห็นผู้หญิงเป็นแค่เครื่องแสวงความใคร่อย่างนึงเท่านั้น ***(Parental Advisory - ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำ)*** พี่ขอคุยกันตรงๆแบบนี้แหละ จะแฉนี่เน๊อะ เอ้ยยย ไม่ใช่ จะตีแผ่ความจริงเฉยๆหน่ะ ช่วยอ่านกันเป็นความรู้ก็พอนะ

อาจารย์แขกผู้ชายท่านนี้ก็ออกโรงเตือนด้วยความหวังดีไปตามเรื่องตามราวแกนั่นแหละ เพราะแกเห็นมาเยอะ ไม่อยากให้ลูกเรือสาวๆรุ่นๆสวยเซกซ์เอกซ์แตก ต้องมามีอันจบอนาคตแอร์อันสวยหรูด้วยเหตผลบางประการไปก่อน การเตือนครั้งนี้ ดูแล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับพี่เลยแม้แต่น้อย อันนี้แล้วแต่คนนะ ใครแพ้หน้าแขกๆ ตากลมผมดำขนดกก้นงอนงามยิ่งกว่าผู้หญิง(!?) ก็ว่ากันไป แต่สำหรับพี่ มองยังไงก็ไม่พิศวาสเลยแม้แต่น้อย เจ้าพวกแขกตี้เอ้ยยยยยย แต่เดี๋ยวก่อนนะน้อง อย่าเพิ่งไปเข้าใจแขกอาหรับผิด แน่นอน แขกอาหรับไม่ได้แย่ไปซะทุกคน 8 ปีของการอยู่ที่นี่ พี่บอกได้เลยว่า ในบรรดาชนชาติแขกระแวกนี้ แขกซาอุ เป็นแขกชาติที่มีความเป็น "generous" มากที่สุด นี่จัดอันดับกันเองโดยคนแขกท้องถิ่นนะ พี่ไม่ได้นั่งเทียนเขียนเองแต่อย่างใด ความ "generous" ของแขกซาอุในที่นี้คือ เงินเยอะ พี่แกเงินเยอะล้นฟ้า เลยเอามาฟาดหัวคน เอ้ยยย เอามาแบ่งให้ผู้หญิงใช้ ประมาณนั้นนะ สปอรต์แมนสุดๆต้องแขกซาอุคับน้อง เอ่ออออ...อ ก่อนจะไถลไปไกลกว่านี้ พี่ว่าเรากลับมาเข้าเรื่องการเทรนกันต่อดีกว่ามั๊ย!? สำหรับใครที่ชอบอ่านอะไรแบบนี้ ไม่ต้องกลัว มีมาอีกเรื่อยๆตามเนื้อเรื่องนะ 

หลังจาก "Introduction" กันทั้งหมด 2-3 วันถ้าจำไม่ผิด พวกพี่ก็เริ่มการเทรน safety กันเลย ใครที่ชอบเรียน ชอบฟังอาจารย์สอน ชอบนั่งหน้าห้องสมัยเรียน รับรองได้เปรียบ เพราะจะเรียนอย่างสนุกสนานกันเลย  แต่เรียนไปเรียนมา อาจมีมึนงงกันบ้างตามประสา เพราะเรื่องที่เรียนมันคือเรื่องที่เกียวกับเครื่องบินทุกรุ่นที่สายการบินใช้บิน พวกพี่ก็ต้องจำ location ของ emergency equipment ต่างๆให้ได้ คือพวกอุปกรณ์นิรภัยทั้งหลายที่ใช้ยามฉุกเฉินหน่ะ ข้อมูลเยอะจริงๆ มีการสอบด้วย สอบไม่ผ่านก็ต้องสอบใหม่ แต่เรื่องเรียนๆพวกนี้ พี่บอกเลย คนไทยเก่งสุดทำคะแนนได้ดีสุด แต่พูดน้อยสุด เออแปลกดี พวกนักเรียนบางชาติ ขอพูดตรงๆว่า "drama queen" มาเกิดของแท้ ชนิดที่ เลดี้กาก้ายังตามไม่ทันกันเลยทีเดียวเชียว โอยยยย มึนมากพวกนี้ พูดเยอะ สาระหามิได้ แต่เวลาสอบนี่หน้าถอดสีเลย นะ สาธุ 

แต่ถึงจะ "drama queen" กันยังไง พวกพี่อยู่ด้วยกันเทรนด้วยกันเป็นเวลา 2 เดือนเต็ม มันก็มีความผูกพันธ์กันระดับนึงนะ ชนิดที่ว่า เวลาอาจารย์ถามคำถาม หรือเวลานั่งสอบ ลอกกันได้ช่วยกันได้ ว่ากันไป พี่ถึงว่าแบชที่เป็นคนไทยทั้งกลุ่มนี่ได้เปรียบนะ ถึงจะมีข้อเสียเปรียบอยู่บ้างก็เถอะ เพราะคนไทยบางครั้งหากรวมตัวกันเยอะๆ แถมเป็นผู้หญิงหมดด้วยแล้วนี่ เอ่ออออ...อ โชคดีนะทุกคน ฮาาาาา แต่แบชพี่มีทั้งหมด 4 ชาติ ดูแล้วหลากหลายกว่า ได้เรียนรู้อะไรเยอะกว่า แค่ในบางเรื่องเท่านั้นนะ 

อีกเรื่องนึงที่พี่จำได้ไม่เคยลืมตอนเทรน safety ... คนไทยเราเป็นชาติยิ้มตลอดเวลาถูกมั๊ย สุขก็ยิ้ม ทุกข์ก็ยิ้ม แต่บางทีเวลาที่เรายิ้ม คนชาติอื่นเค้าไม่ได้แปลการยิ้มของเราไปในทางที่ถูกต้องในบางครั้ง วันนั้นพวกพี่เทรนเรื่องการ "evacuate" คือการอพยพคนออกจากเครื่องบินเวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน ไม่แน่ใจว่าอากาศช่วงนั้นร้อน หรืออาจารย์หิวข้าว (พวกพี่เทรนกันช่วง Ramadan หรือช่วงถือศีลอดของชาวมุสลิม) เพราะอาจารย์แขกที่เทรน ดุมากเป็นพิเศษวันนั้น เรียนก็หนัก ข้อมูลให้จำมีก็เยอะ พอถึงช่วงปฏิบัติ พวกพี่เกิดอาการล้า ท้อ เหนื่อย การยิ้มออกมาผิดจังหวะ กลับกลายเป็นว่าอาจารย์แขกมองว่าพวกพี่ทำเป็นเล่นกันซะงั้น ว๊ากพวกพี่ใหญ่เลย ว่าห้ามยิ้ม พวกเรากำลังซีเรียสกันอยู่ ยิ้มไม่ได้ อ่อออออ เกท กับชาติแขกนี่เวลาคุยเรื่องซีเรียสเครียดๆ ห้ามยิ้ม อ่อๆ ช่างขัดกับ nature ของคนไทยเสียนี่กระไร!? มารู้ทีหลังว่าอาจารย์จริงๆแล้วไม่ได้อะไรหรอก ตีหน้าดุไปงั้น เพราะอยากให้พวกพี่ซีเรียสกับเรื่อง safety ให้มากๆแค่นั้นเอง เทรน safety เสร็จได้นะ โล่งงง เหลือเทรน service ชิวๆสบายๆสนุกๆ ไม่มีอะไรมาก ตามน้ำกันไป  

อย่างที่บอกว่าช่วงที่พวกพี่เทรนเป็นช่วงถือศีลอดของชาวมุสลิม ในโรงเรียนก็จะไม่มีอะไรขายเลย อาหารการกินทั้งหมดต้องเอามาจากบ้านกันเอง ตรงนี้แหละ แบชที่เป็นคนไทยทั้งหมดที่เทรนด้วยกัน ได้เปรียบสุดๆ เพราะต้องมีไม่หมึกแดงก็อาจารย์ยิ่งศักดิ์อยู่ในกลุ่มด้วยแน่ๆ เสบียงเพียบน้องเอ้ยยยย พี่ล่ะอิจฉา แต่อิจฉาไปก็เท่านั้น เพราะยังไงพี่ก็กินไม่เหมือนชาวบ้านเค้าอยู่ดี นะ อาหารไม่มีขายตั้งแต่ช่วงพระอาทิตย์ขึ้นยันพระอาทิตย์ลับฟ้านี่ไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้อากาศร้อนตับแตกแสบผิวนี่มันคืออะไร ทรมานพี่สุดๆแล้ว ขอบอก วันๆนึงกว่าจะเทรนเสร็จกันก็ปาเข้าไป 3 โมงเย็นโดยประมาณ พี่ละดีใจ เพราะว่าได้กลับไปที่โรงแรม แอร์เย็นๆ แถมมีฟิตเนสให้เข้าด้วย กลับมาก็เปลี่ยนชุดลงไปจัดเลย 

จำได้ว่ามีอยู่ครั้ง 2 ครั้งนี่แหละ ที่แบชของพวกพี่ตกลงกันจัดงานปาร์ตี้ริมสระน้ำกัน แต่ละชาติก็พร้อมใจกันทำอาหารของชาติตัวเองเอาไปแชร์กัน เป็น pool party ที่สนุกมาก ความทรงจำพวกนี้ยังอยู่กับพี่มาตลอด 8 ปีไม่เคยลืม ต้องบอกว่าเพื่อนๆทั้ง 3 ชาติ ฟิลิปปินส์ อินเดีย อียิปต์ ให้อะไรพี่เยอะมากในเรื่องของวัฒนธรรมที่แตกต่าง เชื้อชาติ ศาสนา ความคิดความอ่าน สิ่งพวกนี้แหละที่พี่อยากจะบอกว่า แบชคนไทยทั้งแบชอาจจะไม่ได้ในช่วงเทรนทั้ง2เดือนนั้น 

กลับมา ณ ปัจจุบันนี้ อาจารย์ฝรั่ง อาจารย์แขก ที่เคยสอนพวกพี่เมื่อ 8 ปีที่แล้วไม่ได้อยู่ที่สายการบินนี้แล้ว เพื่อนๆในแบชของพี่ทั้ง 10 คน ตอนนี้ เหลือกันอยู่แค่ 4 คนเท่านั้น มีฟิลิปปินส์ 2 คน อียิปต์ 1 คน รวมพี่ด้วยเป็น 4 อีก 6 คนนั้นลาออกกันไปหมดแล้ว บางคนไปแต่งงาน บางคนไปเรียนต่อ บางคนไปหางานใหม่ บางคนก็ย้ายสายการบิน กลุ่มแบชคนไทยทั้งแบชนั่นก็เหลือกันอยู่ไม่กี่คนเหมือนกัน อันนี้แล้วแต่แผนชีวิตของแต่ละคนแหละนะ ก็ต้องเดินกันต่อไป ไม่ว่าทางไหนก็ต้องเดินเหมือนกัน 

ตอนที่ 5 Back to School นี้ จึงเป็นตอนที่พี่อยากบอกอยากเล่าถึงช่วงเวลาที่น่าประทับใจ กับเพื่อนใหม่ๆ ความผูกพันธ์ใหม่ๆ ที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ว่าให้อะไรเราได้เยอะกว่าที่คิด ย้ำกันอีกรอบว่า ชีวิตวัยเรียน เป็นอะไรที่สนุกที่สุดของช่วงชีวิตคนแล้วนะ น้องใช้มันให้ดีๆ สร้างความทรงจำดีๆให้เยอะๆ โตมาเข้าสู่วัยทำงานแล้ว น้องจะเป็นผู้ใหญ่วัยทำงานที่มีประสิทธิภาพคนนึงเลยทีเดียวหล่ะ แล้วเจอกันตอนหน้านะ กับ แนะแนวข้ามทวีป : "so-called flight attendant" ตอนที่ 6 I believe I can fly

>>> แนะแนวข้ามทวีป : "so-called flight attendant" ตอนที่ 6 I believe I can fly  <<<




................................................................
"so-called flight attendant" ตอนที่ 1 How? 
"so-called flight attendant" ตอนที่ 2 How come?

"so-called flight attendant" ตอนที่ 4 Hello Middle East 



No comments: