Friday, June 19, 2020

"ถามมา - ตอบไป (Q&A)" ตอน กระเป๋าวางตรงไหน???

ประเดิมคอลัมน์ใหม่ "ถามมา - ตอบไป (Q&A)" กับคำถามที่เข้ามาสดๆเมื่อกี้ จากน้องคนไทยที่อยู่ประเทศญี่ปุ่น น้องถามมาว่า ...

"พี่คะ หนูมีเรื่องสงสัยค่ะ ถ้าเวลาหนูขึ้นเครื่องบิน แล้วกระเป๋าของหนู กระเป๋าถือของผู้หญิงอ่ะค่ะ จะเอาวางไว้ตรงไหนคะ"


ตรงประเด็น พี่เลิกอ่านหนังสือสอบเลย ลัดคิวมาตอบน้องก่อน #ฮาาาาา 

เวลาขึ้นเครื่องบิน นอกจากกระเป๋าใบใหญ่แบบ Suitcase/Luggage (กระเป๋าเดินทาง) ที่ต้องโหลดใต้เครื่องแล้ว ทุกคนต้องมีกระเป๋าขึ้นเครื่องแบบ Hand bag (กระเป๋าถือ), Cabin Bag (กระเป๋าเดินทางใบเล็ก) ที่เป็นไซส์สำหรับอนุญาตให้ลากขึ้นเครื่องได้ หรือบางคนมาแบบ กระเป๋าเป้สะพายหลัง (Backpack) ใบเดียวก็สามารถนะ

*** โปรดตรวจสอบกับสายการบินที่ท่านจะทำการบินด้วยก่อนทุกครั้งว่า ท่านสามารถพกกระเป๋าแบบไหนไปได้บ้าง เพื่อป้องกันการปวดหัวหน้าเค้าเต้อเช็คอิน ***

กระเป๋าถือของน้อง เมื่อขึ้นไปบนเครื่องแล้ว น้องสามารถวางได้ 2 ที่
- Overhead Stowage บนที่เก็บของเหนือศรีษะ
- Under the seat ใต้ที่นั่งด้านหน้า (ยกเว้นแถวที่นั่งที่อยู่ตรง Emergency Exits คือ ห้ามวางทุกสิ่งอย่างช่วงเครื่องขึ้น - ลง)

พี่จะช่วยเพิ่มคำถามให้เรา  >>> วางไว้บนตักได้มั๊ยคะ? 
คำตอบมีอยู่ 2 แบบ ได้ กับ ไม่ได้ 

เมื่อไหร่ที่สามารถวางกระเป๋าบนตักได้ 
- หลังจากเครื่องขึ้นแล้ว
- หลังจาก seat belt sign goes off คือ สัญญาณไฟรัดเข็มขัดดับลง (***)

เมื่อไหร่ที่ไม่สามารถวางกระเป๋าบนตักได้
- ก่อนเครื่องขึ้น
- ก่อนเครื่องลง

มันมีที่มาที่ไปว่าทำไมต้องอะไรกันขนาดนี้กับแค่กระเป๋าถือเนี่ย บอกเลยว่าผู้หญิงเรารักกระเป๋ายิ่งชีพ ได้ข่าวว่ากระเป๋าบางใบซื้อตั๋วเครื่องบินได้ 10 เที่ยว ก็พอเข้าใจ แต่ราคาค่างวดของกระเป๋าและสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับ "Safety and Precautions"

เดี๋ยวจะยกตัวอย่างให้ดูว่าทำไมห้ามวางกระเป๋าบนตักตอนเครื่องขึ้น - ลง 
- เรานั่งรัดเข็มขัดนิรภัย ปลอดภัยดี แต่เราวางกระเป๋าถือของเราไว้ที่ตัก ระหว่างเครื่องขึ้น - ลง เกิดมีการขัดข้องทางเทคนิค เครื่องไถลออกนอกรันเวย์ หนทางขรุขระเครื่องบินกระเด้งขึ้นๆลงๆ ตัวเรานั่งติดอยู่กับที่เพราะเข็มขัดนิรภัยช่วยไว้ ถามว่ากระเป๋าบนตักเราไปอยู่ตรงไหน!?

- กระเป๋าบนตักเรา ถ้าไม่ฟาดหน้าเรา ก็ไปฟาดหัวคนอื่น กระเป๋าเรามันจะเป็นอันธพาลครองเมืองไปทั่วห้องโดยสารเลย แล้วมันจะไปจอดอยู่บนพื้นทางเดิน ซึ่ง ถ้าเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน แล้วทุกคนต้องรีบอพยพออกจากเครื่องบินให้เร็วที่สุดภายใน 90วินาที (คือเวลาที่การบินสากลเค้าเซทมาแล้วว่าอยู่ในโซนปลอดภัย) บางคนกระโดดข้ามกระเป๋าน้องได้ แต่บางคนจะสะดุดล้ม และเมื่อเค้าล้ม คนข้างหลังก็ล้ม คงไม่ต้องบรรยายต่อนะ ประเด็นสำคัญคือ กระเป๋าที่ว่านี่ ไม่ใช่มีแค่ใบเดียว มีของคนอื่นด้วย นึกภาพออกมั๊ย

>>> ที่นั่งผู้โดยสารที่สำคัญที่สุดคือ ที่นั่งใกล้ Emergency Exits ทั้งหลาย กับที่นั่งแถวแรกของแต่ละ Cabin (ห้องโดยสาร) เพราะบริเวณนี้คือเป็นจุดที่ต้องเคลียร์ทุกสิ่งอย่างเผื่อเกิดกรณีเหตุฉุกเฉิน โดยเฉพาะเวลาเครื่องขึ้น - ลง <<<

พี่เข้าใจนะ เพราะกระเป๋าถือของผู้หญิงเนี่ย นอกจากจะเป็นรุ่น Limited Edition มีแค่ 999 ใบทั่วโลก ยังมีเงินสดอยู่ในกระเป๋าอีก 10 ล้านบาท เครื่องเพชร 79 กะรัต  iPhone15X Plus อีก 3 เครื่อง พี่จะให้หนูเอาไปวางไว้บนช่องเก็บของเหนือศรีษะหรือใต้ที่วางเท้าได้อย่างไรคะ!!!

ว่าแล้วก็ขอเตือนท่านผู้โดยสารทุกท่าน "กรุณาเก็บเงินสด และของมีค่าต่างๆไว้กับตัวท่านเท่านั้นค่ะ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการสูญหายระหว่างการเดินทางค่ะ" คนที่เดินทางบ่อยๆหรือคนที่ระวังตัวและรู้ว่าขโมยนั้นมีทุกที่ เวลาเดินทางบนเครื่องบิน ให้สังเกตุดีๆคนพวกนี้จะมีกระเป๋าสะพายเล็กๆติดตัว แบบแนบตัวเลยอยู่ที่หน้าอก ไม่รบกวนการรัดเข็มขัดนิรภัยแต่อย่างใด นั่นคือการเก็บของมีค่าของเค้าที่แยกจากกระเป๋าที่เค้าเอาไว้บน overhead stowage หรือใต้ที่นั่งด้านหน้า เค้าจะไปเข้าห้องน้ำหรือที่ไหน หรือแม้แต่เค้านอน ของมีค่าก็อยู่ที่ตัวเค้า

***เพิ่มเติมเรื่องการขโมยของบนฟ้า ขอบอกว่ามีมานานแล้ว และมีทุกสายการบิน มีทั้งแบบลูกเรือด้วยกันเอง ผู้โดยสารปกติ และผู้โดยสารมืออาชีพที่ซื้อตั๋วขึ้นมาเพื่อมาขโมยของโดยเฉพาะ เค้าทำกันเป็นทีม และบอกเลยว่าทีมนี้ International and professional สุดๆ ขโมยเนี่ยฉลาดนะ บอกไว้ก่อน เพราะเค้ามองเรามาตั้งแต่แรก ตามเรามาตั้งแต่ ATM ในแอร์พอรต์ ใน Duty Free รู้หมดเรามีเงินเท่าไหร่ ใส่ไว้ตรงไหน โอยยยย ยาว ไว้ค่อยเอามาเขียนใหม่เรื่องนี้ ถ้าอยากอ่านกัน

อย่าลืมว่ากระเป๋าที่บอกว่าไม่ให้วางบนตักอ่ะ มันแค่ช่วงเครื่องขึ้น - ลงเองนะ ไม่ใช่ทั้งไฟลท์ มันคือการป้องกันไว้ก่อน แค่นั้นเอง ผู้โดยสารควรให้ความร่วมมือกับแอร์โฮสเตสในเรื่องนี้ เพราะความปลอดภัยมันไม่ใช่ของใคร มันของตัวผู้โดยสารเองล้วนๆ 


หลังจาก seat belt sign goes off คือ สัญญาณไฟรัดเข็มขัดดับลง (***) ใส่ดาวไว้เพราะจะมาขยายต่อนิดหน่อย ทำไมต้องรอให้สัญญาณไฟรัดเข็มขัดดับลงก่อน เพราะบางคนคือรีบลุกหยิบเลย ล้อเพิ่งยกขึ้นจากพื้นงี้ "อ้าวก็พี่บอกว่าหลังเครื่องขึ้นไง" จ้าาา ประเด็นคือ นักบินเป็นผู้เดียวเท่านั้นที่จะบอกได้ว่าเมื่อไหร่ผู้โดยสารควรจะขยับแบบไม่เกิดการเจ็บตัวใดๆทั้งสิ้น จึงเป็นที่มาว่า รอให้สัญญาณไฟรัดเข็มขัดดับลงก่อนดีกว่า ค่อยเปิด overhead stowage หยิบกระเป๋าลงมา หรือถ้าเราเอากระเป๋าลงมาวางบนตักเรียบร้อยสบายใจ แต่จู่ๆคือกัปตันเปิดสัญญาณไฟรัดเข็มขัด หลังจากนั้นก็รถไฟเหาะตีลังกาดีๆนี่เอง แบบนี้ก็นอกจากจะรัดเข็มขัดนิรภัยให้ตัวเองเรียบร้อยแล้ว น้องควรจะโยนกระเป๋าไปไว้ใต้ที่นั่งด้านหน้าของน้องอย่างรวดเร็วด้วยนะ อย่าลุกขึ้นเด็ดขาด ถ้าไม่อยากวัดเพดานเครื่อง  #ชัดเจน

ขอบคุณคำถามดีๆจากน้องเมย์ from Japan จ้าาาาาา ถามมาอีกนะ ชอบบบบบบบ

"Have a safe flight."



Picture Credit : https://nobagsblog.wordpress.com/ ...........................................................................................................................


"ถามมา - ตอบไป (Q&A)" ตอน นั่งตรงไหนในเครื่องบิน แล้วจะไม่ติดCOVID-19

No comments: